บ้านเช่า


ฟังธรรมเรื่องตัวกู-ของกูก็ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ไม่เห็นว่าจะถอดถอนความเห็นผิดได้ เกิดอะไรขึ้นก็มักจะเป็นทุกข์อยู่เรื่อย

อาจจะเป็นเพราะเราเกิดมากับกายนี้ใจนี้ จะบอกว่ามันไม่ใช่เราข้างในก็เถียงใจขาด ให้สังเกตดูกายใจ ก็ไม่เห็นว่าจะเป็นธรรมชาติตรงไหน ก็ยังเห็นเป็นเราอยู่เรื่อยไป

ธรรมชาติของรูปนามจะแสดงผลออกมาให้ได้เห็นเป็นลักษณะ 3 ประการคือ

ความเป็นอนิจจัง-ไม่เที่ยง มีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

ความเป็นทุกขัง-สภาพทุกขัง สามารถทำความเข้าใจได้ในสองทางคือ สภาพทุกข์ รูปนาม (ซึ่งรวมเราเข้าไปด้วย) มีสภาพทุกข์บีบคั้นเพราะความไม่เที่ยง มันจึงดิ้นรนเพื่อรักษาสภาพของมันตลอดเวลา นี่เป็นสภาพทุกข์หรือทุกข์โดยสภาพของมัน จะมีผู้เข้าไปยึดหรือไม่ มันก็ทุกข์อยู่แล้ว กับอีกสภาพคือ เมื่อมีจิตโง่เพราะมีอวิชชาไปยึดของที่มีสภาพทุกข์มาเป็นของตน ทำไมจะไม่ทุกข์ล่ะ นี่จึงเกิดเป็นความทุกข์ใจขึ้น จึงเกิดผู้ทุกข์ขึ้น

ความเป็นอนัตตา คำว่าไม่มีตัวตนฟังดูเข้าใจยากสำหรับคนทั่วไป ทำไมจึงเป็นอนัตตา ก็เพราะว่าสภาพที่เห็นได้ในวินาทีปัจจุบันเป็นผลมาจากเหตุในวินาทีก่อน เช่นก่อนจะเป็นน้ำมาจากการรวมตัวกันของธาตุเพราะปัจจัยที่ถึงพร้อมจึงเกิดขึ้น จากนั้นสภาพสิ่งแวดล้อมต่างๆ ก็ยังคงกระทำต่อน้ำนั้นตลอดเวลา เช่น ความร้อน ความชื้น ฯลฯ ทำให้โมเลกุลมันดิ้นไปมา ระเหยไปเป็นไอน้ำ ไอน้ำก็เป็นผลจากน้ำที่ถูกกระทำ น้ำก็เป็นเหตุ ไอน้ำก็เลยเป็นผล มันเปลี่ยนแปลงสภาพกันตลอดด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ เราเองก็เช่นกัน ตรงนี้เมื่อเห็นธรรมเข้าไปมากๆ ก็จะเข้าใจสภาพนั้นๆ ได้ จะยิ่งปล่อยความยึดถือโดยลำดับ

เมื่อเห็นไตรลักษณ์มากๆ จะเข้าใจลึกลงไปถึงความเป็นรูปนามที่มาประกอบกันเป็นชีวิต รวมถึงการเกิดขึ้นแห่งโลกภายในและโลกภายนอกว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร จนสามารถจัดการกับเหตุเกิดแห่งทุกข์ ทั้งระดับความรู้สึกจนถึงสภาพทุกข์ของขันธ์ จนสลัดความยึดถือลงได้

พวกเรายึดกายนี้หรือ?…ใช่ สังเกตง่ายๆ ถ้าเราป่วยทุกข์ไหม? ถ้าเราเป็นมะเร็งทุกข์ไหม? เวลาอ่านธรรมะดูเหมือนเข้าใจได้ เวลาปฏิบัติดูเหมือนจะเข้าใจนะ แต่พอมันเกิดอะไรขึ้นจริงๆ มันก็ยังรู้สึกเป็นเราอยู่นั่นเอง

เอาอย่างนี้ ถ้าเราอยู่บ้านเช่าแล้วไปทำงาน เกิดไฟไหม้บ้านเช่า ทุกข์กับบ้านเช่าไหม? ทุกข์ซิทุกข์กับของที่อยู่ในบ้านแต่บ้านเช่าช่างมันเพราะไม่ใช่ของกู

ถ้าอยู่บ้านตัวเองแล้วเกิดกรณีเดียวกันคือไฟไหม้บ้านทุกข์ไหม? ไม่ต้องถามเลย คงแทบเป็นลม ทำไมล่ะ ถ้าเอาวิดีโอไปถ่าย ก็เข้านอน กินข้าว ดูทีวีอยู่ในบ้าน ดูไม่เห็นความต่างกันเลยไม่ว่าบ้านเช่าหรือบ้านตัวเอง ที่จ่ายรายเดือนก็จ่ายเหมือนกัน มากน้อยอาจต่างกันบ้าง แต่ที่ต่างกันคือความรู้สึกเป็นเจ้าของที่เติมขึ้นมา

แล้วบ้านที่เช่าอยู่ตอนนี้ทำสัญญาไว้ 80 ปี อยู่ไปอยู่มาชักหลงขึดมาเป็นบ้านกูเข้าแล้ว (ความจริงไม่ใช่อยู่ไปอยู่มาหรอก มันยึดตั้งแต่ก่อนเกิดซะอีก) บ้านไม่ว่าอะไรหรอกนะเพราะเขาให้เราเช่า เราจะตู่เอาเป็นของเรา เขาก็ไม่หือไม่อือด้วย แต่ถึงเวลาสัญญาหมดอายุ เขาก็เรียกคืน จะโหยหาตีโพยตีพายไปก็เรื่องของคนเช่าเอง จะไปร้องกับใครเขาไม่ว่าเลย เพราะเขาไม่เคยเป็นของเราเป็นเราสักวินาที

เช่าอยู่ก็ดูแลไปตามสมควร ดูแลมากไป ตกแต่งมากไปจะรู้สึกว่าบ้านเช่าเป็นบ้านเรานะ

23 มกราคม 2556


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น