ปฏิบัติไปก็ไม่เห็นดีขึ้นเลย

มีอยู่คำถามหนึ่งที่น่าสนใจ ครั้งหนึ่งพระเจ้ามิลินท์ถามพระนาคเสนว่า ในเมื่อพระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญูส ต้องรู้ว่าพระเทวทัตจะมาเป็นมารของท่านและจะมาเป็นมารของพุทธศาสนา ทำไมท่านจึงอนุญาตให้พระเทวทัตบวช พระเทวทัตปฏิบัติไปก็ไม่เห็นเปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจที่อาฆาต มุ่งร้าย คิดการใหญ่ หวังจะให้ตนขึ้นเป็นพระพุทธเจ้าแทน

พระนาคเสนตอบว่า พระพุทธองค์ทราบว่าพระเทวทัตเป็นอย่างไร ทั้งเป็นคู่อาฆาตคู่แค้นกันมายาวนาน แต่วิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยพระเทวทัตได้ เพียงแต่ไม่ใช่ในชาติปัจจุบัน เพราะหากท่านไม่บวชให้พระเทวทัต เขาจะทำบาปทำกรรมมากกว่านี้อีกและจะไม่มีวันได้พบพระนิพพานเลย เราทราบดีว่าสุดท้ายก่อนที่พระเทวทัตจะถูกธรณีสูบ ได้ระลึกนึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้า และถวายกระดูกคางก่อนที่จะตาย เหตุแห่งวิบากที่ทำไว้ พระเทวทัตต้องรับผลในอเวจีมหานรกแน่ๆ แต่ยังมีสักวันในอนาคตอันยาวนาน พระเทวทัตจะตรัสรู้เป็นปัจเจกพระพุทธเจ้าขึ้นมาได้

นี่คือเหตุที่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายได้พร่ำเพียรสั่งสอนอบรมอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ไม่ใช่จะได้เห็นผลกันทุกคนในปัจจุบันชาติ บางคนเราเองก็เคยพูดไม่ใช่หรือว่า เขาไม่เห็นดีขึ้นเลย เราไม่เห็นดีขึ้นเลย ลูกฉันเข้าคอร์สแล้วก็เหมือนเดิม

เหมือนเดิมจริงหรือ? คลองแสนแสบที่แสนเน่าเหม็น เอาน้ำสะอาดถังหนึ่งเทลงไป มันสะอาดไหม?…สะอาดสิ สะอาดขึ้น 1 ถัง แล้วถ้ามีถังที่ 2-3-4 ล่ะ และเริ่มถ่ายน้ำเน่าออกด้วย ลอกโคลนตมที่พื้นบ่อออกไปด้วย วันหนึ่งน้ำต้องสะอาดแน่

หากพระเทวทัตยังคงได้รับพระเมตตาจากพระพุทธเจ้าทั้งๆ ที่ทำกับพระองค์ท่านสารพัด ด้วยเพราะท่านมองการณ์ไกลว่า สักวันหนึ่งเขาจะพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ แล้วพวกเราจะท้อแท้ไปทำไม สามีเรา ภรรยาเรา พ่อแม่เรา ลูกเรา เพื่อนร่วมงานเรา คนที่เราไม่รู้จัก ทำไมไม่เริ่มต้นช่วยเขาเสียแต่วันนี้ อย่าคิดแทนสิว่าเขาไม่สนใจหรอก เขาไม่ได้อะไรหรอก

ไม่มีไม่ได้นะ เมื่อพระธรรมหยั่งลงไปในจิต รอเพียงแค่วันที่เหตุปัจจัยถึงพร้อมเท่านั้น เมล็ดพันธุ์แห่งพระธรรมจะเจริญงอกงามขึ้นทันทีอย่างรวดเร็ว ไม่เนิ่นช้า อาจเร็วกว่าเราเสียอีก มัวแต่เหยาะๆ แหยะๆ อยู่นั่นแหละ


เขียนเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2554


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น