ไม่ได้คิดอะไร-คิดมากน่า

ไม่ได้คิดอะไร…คิดมากน่า

เคยพูดอย่างนี้กับคนรักไหม? หรือเคยมีใครพูดกับเราอย่างนี้ไหม?

ฉันเห็นเธอไปไหนมาไหนกับคนนั้น ถ้าไม่มีอะไรจะไปทำไม?
ไม่ได้คิดอะไร ไม่มีอะไร…คิดมากน่า

วันก่อนเห็นคุณแชทไปยิ้มไปกับแฟนเก่า แหมดูมีความสุขเชียว
ไม่ได้คิดอะไร ไม่มีอะไร…คิดมากน่า

เราก็ไม่อยากให้ใครทำ ดังนั้นอย่าทำ ไม่ได้คิดอะไรก็ไม่ควรทำ คิดถึงใจเขาใจเรา อะไรทำแล้วคนอื่นต้องมานั่งทุกข์จากการกระทำของเรา อย่าไปทำเลย ทำแล้วมานั่งพูดไม่มีอะไรๆ

เรื่องอย่างนี้วินัยของสงฆ์จะรัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ ถ้าภิกษุคุยกับสีกา ต้องไม่เป็นที่ลับหูและลับตา เห็นไหมว่า ไม่มีการมาบอกว่า ไม่ได้คิดอะไร…คิดมากน่า ลับหูคือคนอื่นไม่ได้ยินด้วย ลับตานี่ยิ่งน่าหวาดเสียวขึ้นไปอีกหลายขั้น อาจจะทำอะไรก็ไม่รู้

หากคู่ไหนครอบครัวไหนอยู่กันด้วยความเห็นอกเห็นใจในคู่ของตนอย่างนี้ จะหมดซึ่งความระแวงสงสัยในกันและกัน จิตจะเป็นกุศล อย่างนี้เป็นคู่ชีวิตกัน ไม่ใช่คู่เวรคู่กรรม ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าอยู่ด้วยแล้วทุกข์จริงๆ เอาแต่ความสุขความสนุกส่วนตัวเอง ความสุขในครอบครัว จึงเป็นความสุขแบบสุกๆ ดิบๆ พิกล

เริ่มที่เรา ไม่ต้องไปรอเริ่มที่ใคร เขาจะทำไม่ทำเราทำให้ได้ ทำให้ได้แล้วสบายใจ อย่าไปมีตัวตนในการทำว่า ฉันทำแล้ว เธอไม่เห็นทำ กฎของธรรมชาตินั้น เมื่อใครทำดีจนถึงที่สุดแล้วจริงๆ สิ่งไม่ดีอยู่ไม่ได้เอง คนรอบข้างจะเปลี่ยนเอง หากเขาไม่เปลี่ยน ธรรมชาติจะเปลี่ยนให้เอง แต่อย่าทำเพราะหวังสิ่งนี้นะ เพราะถ้าหวังเป็นกิเลสที่น่ารังเกียจเชียวล่ะ เพราะนั่นไม่ใช่คนที่ทำดีจริงหรอก ทำเพราะมีตัวมีตน หวังผลให้คนอื่นฉิบหาย ระวังเราจะฉิบหายเสียเอง จากความปรารถนาอันมีอกุศลเป็นมูล

เช่น มีคนบอกว่า มีคนทำร้ายเรา เราให้อภัยแล้ว แผ่เมตตาให้เขาทุกครั้งที่นั่งสมาธิสวดมนต์…เดี๋ยวกฎแห่งกรรมก็ทำให้มันฉิบหายพินาศไปเอง

ให้จบที่กุศล… อย่าไปเพิ่มประโยคหลังนั่น ใจมันเป็นอกุศลไปแล้ว ละอกุศลไปเรื่อยๆ เขาจะเป็นอะไรไม่เป็นอะไร เราจบแล้ว ไม่ต้องไปสนใจ วางลงให้หมด หมดวิบากที่จะสร้างเวรหมุนกรรมกันอีก เขาจะรับอะไรก็เรื่องของเขา เราเป็นอิสระแล้ว อย่างนี้ถึงจะหลุดพ้นได้จริง

มีความสุข สบายใจ ไม่ทำผิดธรรม ผิดศีล นี่ล่ะพื้นฐานสำคัญของอริยมรรคมีองค์ 8 หนทางแห่งการพ้นทุกข์


เขียนเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2555


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น