ตาย

ช่วงที่ผ่านมาได้พบกับการตายอยู่เรื่อย ที่เพิ่งผ่านมาก็เป็นญาติคนหนึ่งเป็นลุง อายุ 84 ปี เป็นปราชญ์เก่งมาก วันที่ญาติพาไปโรงพยาบาลอาการก็ไม่ค่อยดี แต่เชื่อเถอะว่าไม่ว่าใครก็ตาม ไม่มีใครคิดว่าตัวเองจะตายหรอก จะรู้สึกว่าเดี๋ยวก็ได้กลับบ้าน พอไปอยู่โรงพยาบาล ทุกคนที่ป่วยก็จะพูดแต่อยากกลับบ้าน เพราะจะคิดว่าตัวเองก็ไม่ได้เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวก็หาย ถึงไม่บอกเองคนอื่นก็คอยบอกให้ เพราะรู้ว่าถ้าพูดอย่างนี้แล้วจะสบายใจ ทั้งที่จะหายหรือไม่หาย ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาปรุงคำขึ้นมาพูดเลย

ชีวิตนี้เราป่วยกันมากี่ครั้งแล้วล่ะ (นับครั้งไม่ถ้วน) พอป่วยแล้วเคยตายไหม?…พูดแปลกๆ จะตายได้ไง ถ้าตายจะมานั่งอ่านอยู่นี่หรือ?

ใช่…นั่นนะสิ เพราะเราไม่เคยตายตอนป่วยสักที แล้วทำไมมันถึงจะเป็นครั้งนี้ล่ะ? ดังนั้นทุกคนที่ไม่ได้ฝึกมรณสติไว้ ไม่เคยปฏิบัติ มันจะเกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมา แล้วก็จะปลอบใจตัวเอง จิตตก ใครก็ได้ช่วยมาโกหกบอกว่า “ไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวก็หาย” แค่หลอกๆ อย่างนี้ก็ยังดี

ผู้ป่วยจะกระอักกระอ่วนมาก ไม่กล้าคิดเรื่องตายหรอก จึงวีนใส่หมอและพยาบาลตลอดเวลาที่ตื่นมารู้สึกตัว จนหมอต้องให้ยานอนหลับ น่าเห็นใจจริงๆ แต่ก็น่ากลัวนะแบบนี้ คนเก่งในทางโลก ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีปัญญาในการพ้นทุกข์

ส่วนอีกรายเป็นเด็กอนุบาลนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน วัยรุ่นทะเลาะกัน คนหนึ่งวิ่งเข้าบ้านไปเอาปืนลูกซองออกมายิงคู่อริ แต่ยิงก็คงไม่เป็น ประกอบกับอารมณ์โทสะ ลูกปืนพุ่งไปเจาะหัวเด็กน้อยผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย…ตาย ท่านที่มีลูก คงนึกออกว่าตอนนี้พ่อแม่เด็กน้อยนั้น จะรู้สึกอย่างไร

โลงไม่ได้มีไว้ใส่คนแก่ สุภาษิตจีนเขาว่า แล้วก็ไม่มีไว้ใส่เด็กเท่านั้น โลงมีไว้ใส่เรา วันสุดท้ายมาถึงแน่

ทำอะไรคิดเผื่อตายไว้มั่ง ชาติหน้ามีจริงนะ


เขียนเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2555


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น