ขอบคุณกิเลสฝ่ายขาวที่ทำให้เราอยากปฏิบัติธรรม

ถ้าเราต้องขอบคุณโลภะที่ทำให้เราอยากปฏิบัติธรรม

คนติดเฮโรอีนก็ต้องขอบคุณเฮโรอีน ที่ทำให้เขามีความสุข

ขอบคุณโจรชั่ว ที่ฆ่าคนในครอบครัวเรา ทำให้เรารู้จักความพลัดพราก

อย่าต้องขนาดนั้นเลย…

กิเลสไม่มีฝ่าย กิเลสมีเดี่ยวๆ เลย คือหลงยึด หลงโลภ หลงโกรธ ถ้าอยากทำอะไรเพราะกิเลสก็จะเป็น “อุตส่าห์ทำ หลงทำ” ซึ่งผลออกมา ก็แน่นอนว่าวันหนึ่งจะไม่อยากทำ เมื่อสิ่งที่ทำ ไม่ได้รับการตอบสนองที่ต้องการ

วันนี้ให้การมาปฏิบัติธรรมนั้น เกิดขึ้นจากสติปัญญาหรือสัมมาทิฎฐิกันเถิด เพราะนั่น จะทำให้ท่านมีความเพียรอย่างต่อเนื่อง ไม่ย่อท้อ ไม่หลงผิด คลายจากข้อสงสัยสารพัด

หากเรามาปฏิบัติด้วยสติปัญญาเห็นโทษภัยของการเวียนว่ายตายเกิด เห็นถึงความทุกข์ที่เกิดไม่จบไม่สิ้น เริ่มเนกขัมมะออกจากกาม ไม่มุ่งร้าย ไม่เบียดเบียน ก็จะเกิดศีลที่บริบูรณ์ และเริ่มจัดการกับอกุศล เจริญกุศลในจิตใจ และก็จะเห็นความจริงว่า เพราะการเกิดทุกข์นั้นเพียงแค่ใจขยับไปมา ก็สร้างตัวตน สร้างความทุกข์ไม่หยุดหย่อน เห็นว่าเกิด แก่ เจ็บ ตายนั้นเป็นทุกข์ หาทางที่จะพ้นไปจากมัน ด้วยความมั่นใจในคำสอนของพระบรมศาสดา เดินตามอริยมรรคมีองค์ 8 ด้วยความเพียรอันไม่ถอยกลับ

การปฏิบัติอย่างนี้ไม่ต้องไปขอบคุณกิเลส เพราะกิเลสมันกำลังถูกขุดรากถอนโคน ความปรารถนาที่จะพ้นไปจากการครอบงำของกิเลส ไม่ใช่โลภะ อย่าเข้าใจผิด นั่นเป็นสติปัญญาที่เกิดขึ้น

ครั้งหนึ่งในคอร์สปฏิบัติธรรม ในวันสุดท้ายมีการออกมาแสดงความรู้สึก สุภาพสตรีท่านหนึ่งพูดขึ้นมาว่า

“ฉันเห็นตัวเองมีจิตอกุศลตลอดเวลา พยายามจัดการเท่าไหร่ก็ไม่หมด ฉันตกนรกแน่เลย”

“ขอโทษนะ…สิ่งที่คุณพูดถึงนั่นน่ะ เขาเรียกสติ และเกิดความละอายเกรงกลัวต่อบาป จะตกนรกได้ยังไง”

“ไม่ต้องปลอบใจฉันหรอกค่ะ”

“เอาอีกแล้ว…ไม่ได้ปลอบใจ นี่คือความจริง”


เขียนเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2555


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น