สติ สมาธิ ปัญญา เป็นผู้ร้ายของผู้มีมิจฉาทิฏฐิ

จะซื้ออะไรก็ไม่ได้ซื้อ จะทำอะไรก็ไม่ได้ทำ จะกินอะไรก็ไม่ได้กิน…เวลาเกิดสติยับยั้งชั่งใจ

ฉันนั่งสมาธิไม่ได้หรอก ฉันฟุ้งซ่านตลอด ให้ฉันมีสมาธิในการกินข้าว…แล้วมันจะอร่อยได้ยังไงกัน

ก็ฉันชอบกระเป๋าแบรนด์เนมนี่ ฉันอยากซื้อของที่ฉันชอบอ่ะ…มันเงินฉันนะ ผิดตรงไหนเหรอ?

มันไม่ง่ายเลยนะว่าไหม ที่จะมีใครมาทำให้คนเห็นให้ได้ยอมรับให้ได้ว่าสิ่งที่เขาเคยคุ้นเคยชินอยู่นั่นเป็นทุกข์ เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ การนำความจริงมาบอก การทำให้ผู้คนเกิดสัมมาทิฏฐิมันยากจริงๆ มันน่าเหนื่อยไหมล่ะ ถ้าท่านเป็นคนๆ นั้นท่านจะทำไหม เพราะดูเหมือนไม่ได้อะไรเลย นอกจากเหนื่อยเปล่า

แต่ไม่หรอก แม้แต่พระศาสดาเองรวมถึงเหล่าสาวกของพระศาสดาทั้งหมด จะอุทิศตนเพื่อการนี้ไปจนตาย…ไม่ต้องห่วง แม้พูดแล้วไม่มีคนฟัง ก็จะไม่มีใครหยุดพูด จนกว่ามันจะหยุด (หายใจ)

แล้วท่านว่า ท่านมีสัมมาทิฏฐิหรือยัง?

เขียนเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2555

ที่มา: “เห็นถูก รู้แจ้ง 3” (พ.ศ.2556) — อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม

ชมรมกัลยาณธรรม (kanlayanatam.com) และ สวนยินดีธรรม (suanyindee.net)