ภัยพิบัติ ไม่ได้อยู่ที่เหตุการณ์ภายนอก ภัยพิบัติจากจิตโง่ไปทุกข์เอง

การเสวนาภัยพิบัติที่เพิ่งผ่านมา กล่าวโดยสรุป ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไปตามวิถีของธรรมชาติ ซึ่งวันนี้ไม่ว่าอะไรๆ ก็เกิดจากการที่ทุกอย่างมีเหตุปัจจัยเป็นที่มาทั้งสิ้น จะบอกว่ามนุษย์เป็นคนทำก็ใช่ เพราะมนุษย์เป็นตัวเร่ง จะช่วยลดการใช้นั่นใช้นี่ก็ดี แต่คงเป็นได้แค่การประคองหรือชลอ สิ่งที่เกิดจากธรรมชาติเองนั้นก็มีอยู่เช่นกัน ดังนั้นวันนี้เราคงไม่อ้อมค้อม ต้องพุ่งมาแก้ที่เหตุในใจเป็นหลัก ข้างนอกทำอะไรได้ก็ทำไป

ในการเสวนาส มีคำที่ผู้ร่วมเสวนาพูดขึ้นมาว่า แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นเลิศแล้ว ท่านก็ยังคงต้องพบกับวิบากกรรม ก่อนจะปรินิพพาน อาหารสูกรมัทวะเกิดเป็นพิษ จึงทำให้อาพาธหนัก จนดับขันธ์ปรินิพพาน

ผมเคยพูดในคอร์สที่ไปเกาะแตนว่า การที่เราต้องมาพบกับความลำบาก ณ ที่นี้ เพราะเราเคยทำเหตุใดๆ มาก็ตาม หากสิ่งนี้เกิดขึ้นกับเราในชีวิตจริง คงจะทุกข์มากนะ เพราะอดอยาก เพราะลำบาก อยู่ในเต็นท์ โดนพายุกระหน่ำ แต่เห็นไหมว่า ในตอนนั้นจริงๆ ไม่มีใครทุกข์ ไม่มีใครคร่ำครวญ ทุกคนกลับเกิดปัญญาที่สามารถอยู่ได้ในสถานการณ์เลวร้ายได้โดยไม่ทุกข์

ตกลงวิบากทำให้ทุกข์แน่หรือ? หากมีปัญญา วิบากทั้งหลายก็ไม่สามารถทำให้เราเกิดทุกข์ได้ มันก็แค่นั้น มีเหตุก็เกิด หมดเหตุก็ดับ เมื่อถึงที่สุด ใจไม่ยึดถือมันก็เกิดๆ ดับๆ มาๆ ไปๆ ตามเรื่องตามราวของมัน ทำอะไรได้ก็ทำ แก้ได้ก็แก้ เต็มที่เพื่อทุกคน ว่างจากตัวตน


เขียนเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2553


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น