ไก่ขัน…พระอาทิตย์ขึ้น
ไก่ขัน…พระอาทิตย์ขึ้น
ไก่ขัน…พระอาทิตย์ขึ้น
เพราะไก่ขัน พระอาทิตย์จึงขึ้น…เพราะสิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
“ปัญญา?”
ข้อระวัง
ระวัง “กู” คิดแล้ว หลงนึกว่าเกิดธัมมวิจยะได้นะ แล้วเชื่อไหมว่า กูเก่ง กูรู้ ใครทักก็ไม่เชื่อ ก็มันเป็นเหตุเป็นปัจจัยกันเห็นๆ จะเป็นมิจฉาได้ยังไง นี่ล่ะ สัมมาทิฏฐิ “ของกู”
มุมมอง: ไก่กับพระอาทิตย์
บนศาลพระภูมิ ขอให้ได้งาน…ได้งาน = พระภูมิทำรู้โกรธ…โกรธดับ = เพราะรู้โกรธ โกรธจึงดับ บางวันพอรู้ แล้วไม่ดับเลยหงุดหงิด เมื่ิอก่อนก็ไม่เคยรู้นะ ก็เห็นมันดับเองได้ เตะหมา หมาโกรธ เอาขนมโยนไปให้หมา หมากระดิกหาง หายโกรธ เกิดเป็นโลภแทน โกรธดับไหมล่ะ ดับเอง ตามสัญชาตญาณ หมาเองก็ไม่มีสตินี่ ทำไมโกรธดับได้ล่ะ
ไปเข้าคอร์ส…รถชน = เพราะเข้าคอร์ส รถเลยชน (มันไม่คว่ำก็ดีแล้ว)
ก่อนไปนอน เห็นคนนั่งทำงาน ตื่นมาตอนเช้า เห็นเขายังนั่งทำงาน เลยถามว่า เมื่อคืนไม่ได้นอนเหรอ? เปล่า นอนหลังเธอ 5 นาที แล้วเพิ่งมานั่งทำงานเมื่อกี๊นี้เอง ก่อนเธอมา 5 นาที
อะไรๆ ก็อาจใช่หรืออาจไม่ใช่ ใดๆ ในโลกโดยเฉพาะสังขาร ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น มันอาจใช่และอาจไม่ใช่ งงไว้ แล้วจะหายงง
ปัญญาที่แท้จริงมาจากสัมมาทิฏฐิ อย่าให้เป็นปัญญาแบบคนขายลูกเหม็น มีไว้โอ้อวดสรรพคุณหลอกคนซื้อ แต่แมลงสาบกลับไม่กลัวเลย
เขียนเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2554
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น