จิตอาสาปีหนึ่งทำกี่ที

เสาร์อาทิตย์นี้ไปกรอกถุงทราย ไปปั้น EM Ball ไปช่วยแจกของ สาธุ…

จิตอาสานั้น ช่วยให้คนไม่เคยทำได้มีสำนึกสาธารณะ ก็คือเห็นคนอื่นบ้าง ฝึกวันนี้เพื่อที่วันข้างหน้าจะได้ทำสิ่งนี้จนเป็นนิสัย ทำจนทำได้ในชีวิตของตนเอง จนฝังรากลึกเป็นบารมีต่อๆ ไป ส่วนคนที่เขาทำของเขาทุกวัน นี่ก็เป็นแค่อีกวันหนึ่ง ที่มีโอกาสทำ คนเหล่านี้ต้องอนุโมทนาดังๆ

ผมไม่ขวางโลกหรอก ผมยินดีในการเห็นทุกคนออกไปทำความดี ถึงจะออกไปทำเอาหน้าบ้าง เห็นคนอื่นทำก็เลยทำบ้าง เอาไว้มีอะไรลงเฟซบุ๊คให้เพื่อนๆ อนุโมทนากันบ้าง นั่นก็ยังดีกว่าไม่ช่วยอะไรใคร ไม่อย่างนั้นมันจะมีแต่วันๆ ที่แสวงหาใส่ตน เพราะไม่ว่าใครก็ตามเมื่อทำไปแล้ว ก็จะได้ไปเห็นเองว่า ผู้รับเขาได้พ้นจากทุกข์ทางกายบ้าง มีใจที่แช่มชื่นขึ้นบ้าง ว่าเพื่อนๆ ไม่ทอดทิ้งกัน จนผู้ให้เองก็เกิดปีติจากการให้ไปด้วย จนอาจติดเป็นนิสัยต่อๆ ไปจนทำไม่หยุด เพราะฉะนั้น ทำไปไม่หยุดในทุกๆ วัน ให้คนทุกวัน ดีกับทุกคนทุกวัน ช่วยคนทุกวันไม่มีใครต้องมาบอก ว่าต้องทำอะไร ไม่สนว่าใครจะเห็น

เคยมีผู้ปฏิบัติมาเล่าให้ผมฟังว่า เขาเห็นคนใส่บาตร เขาจึงเริ่มใส่บาตร เมื่อใส่บาตรในวันแรกเขามีความสุขมาก จากนั้นเขาใส่บาตรทุกวัน ติดต่อกัน 6 เดือน แต่แล้ววันหนึ่งเป็นวันที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง เขาใส่บาตรเหมือนเดิม แต่ใจเขาไม่มีความสุขเหมือนเคย จากวันนั้น เขาจึงตัดสินใจเลิกใส่บาตร นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเขาคนนั้น ทำไม?

เขาใส่บาตรเพราะความสุขที่เขาได้หรือ? ไม่ใช่เพราะพระจะรับอาหารไปฉันหรือ?

เราทำดีเพราะอะไร เพราะอยากให้ตัวเองได้บุญ อยากให้ตัวเองมีความสุข วันที่เราไม่ได้รับความสุข เราเลิก เพราะ “เราเห็นแก่ตัว ทำบุญก็เห็นแก่ตัว เอาของไปให้เขา แต่แอบเอาเหมือนเดิม” เราเคยให้อะไรใครจริงๆ บ้างไหม ชีวิตนี้สเคยปรารถนาว่า การกระทำของเราจะทำให้ผู้อื่นพ้นทุกข์จริงๆ บ้างไหม?

ในการทำจิตอาสาในยุคปัจจุบันนี้ กำลังกลายเป็นรูปแบบหรือแฟชั่น ดีไหม…ดี…แต่อย่าไปผิดทาง เหมือนการไปทำบุญวันสำคัญ แต่ในชีวิตประจำวันไม่ทำ อยากรู้ไหมว่ารูปแบบของจิตอาสาจริงๆ เป็นอย่างไร ถ้ายกตัวอย่างสักคนก็ “ยายยิ้ม” สนั่นแหละ ยายยิ้มนี่ล่ะจิตอาสา ทำไปเรื่อยๆ ทั้งชีวิต ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ได้เรียกร้อง ไม่สนใจว่าใครจะเห็นไหม ทำเพราะมุ่งมั่นว่าสิ่งนี้ดี สิ่งนี้เป็นประโยชน์

วันหนึ่งที่มีผู้คนเข้าไปเห็น นำเรื่องราวมาบอกกล่าว แล้ววันนี้สิ่งนั้นก็ผ่านไป เธอก็ยังคงทำสิ่งที่เธอทำต่อไปจนถึงวันสุดท้าย เพราะว่าสิ่งนั้นดีมีประโยชน์ ถ้าจะได้อะไรมาที่ผู้ทำบ้างก็คือ ลดตัวลดตน นั่นก็เกินพอแล้ว เพราะหมดเมื่อไหร่ก็หมดทุกข์ได้โดยไม่ต้องเอา


เขียนเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2554


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น