Transformers

หากใครประสบอุบัติเหตุ แต่ได้รับการเปลี่ยนอวัยวะเป็นครึ่งคนครึ่งหุ่น เดี๋ยวนี้ก็คงพอจะเทียบกับพวก Transformers ได้

เมื่อก่อนผมไม่รู้ธรรมะใดๆ แต่ผมเคยสงสัยมากๆ ว่า อนาคตเมื่อวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าขึ้น เมื่อแขนขาดเราจะเปลี่ยนแขนกลเข้ามาแทนได้ไหม ซึ่งทุกวันนี้ก็เห็นอยู่ว่าวิทยาการก้าวหน้าไปจนสามารถสร้างอวัยวะเทียมให้ใช้แทนที่อวัยวะของเราได้ ตอนแรกก็ใช้การบังคับเหมือนรีโมท แต่หลังๆ ทำท่าจะโยงสายไปเชื่อมกับสมอง สมองสั่งให้ขยับเองได้ ซึ่งถ้าเรียนรู้ฝึกฝน วันหนึ่งก็จะใช้ได้อย่างกับของติดตัวมา แต่ผมก็สงสัยต่อไปอีกว่า แต่มันไม่รู้สึกนี่ จะเหมือนกับแขนเราได้ไง สมมุติเราจุดเทียนโดยใช้แขนกล ขณะจุดเทียน ไฟเกิดลุกมาโดนมือกล มือกลก็จะไม่รู้ อาจทำให้สายไฟภายในเสียหายได้ ไม่เหมือนมือเรา ถ้าร้อนเรารู้ เราจะชักมือออกทัน ก่อนไฟจะลวกมือเสียหาย ดังนั้นถ้ามันสามารถทำตัวเซ็นเซอร์มาคอยจับความร้อนบ้างความเย็นบ้างที่จะทำความเสียหายให้แขนกลนี้ มันก็จะสามารถรักษาตัวเองได้ดีขึ้น

แต่เอ๊ะ…แขนเรามีเซ็นเซอร์รับสิ่งที่มากระทบ ก็เพราะมันเอาไว้รักษาตัวมันเองนี่ มันเกิดเป็นเวทนาที่คอยเตือนให้ร่างกายนี้หลบหลีกจากภัย ไม่ได้มีไว้ให้สุขให้ทุกข์ ให้พอใจหรือไม่พอใจ วันนี้เรายึดถือมันเพราะความโง่รึเปล่านี่ พอเราหลงผิด ก็เลยคิดว่านั่นเป็นอาการของเราขึ้นมา หากแขนกลได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์ว่าเมื่อร้อนให้จี๊ดที่สมอง พอจี๊ดที่สมองก็จะได้ขยับมือออก นานไปนานไป เราก็คงจะชอบไม่ชอบการจี๊ดนั่นขึ้นมาอีก เป็นสุขเป็นทุกข์กับมันขึ้นมาอีกแน่เลย

วันแรกๆ เราคงไม่หลงเมื่อมันจี๊ดขึ้นมา แถมรู้สึกดีที่มันจี๊ด เพราะมันช่วยเตือนจะได้รักษาอุปกรณ์นี้ไว้ได้ แต่นานไปเราคงโง่ไปหลงยึดแขนกลนี้เป็นเราเป็นของเราอีกแน่เลย แล้วก็พอใจไม่พอใจกับอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น ความเป็นจริงร่างกายนี้ ก็ร้างขึ้นอย่างมีเหตุมีผลที่เรียกว่า อิทัปปัจจยตา (เพราะสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น) ด้วยสภาพของการดิ้นรนอยู่ของรูปนามเอง

อ้าว หรือว่าแขนจริงของเราก็ก่อเกิดกำเนิดขึ้นมาแบบแขนกล จากการดิ้นรนเพื่อความอยู่ให้ได้ของรูปนามนี้เท่านั้น มันสรรค์สร้างเวทนาและระบบประสาทมา เป็นเครื่องช่วยให้มันอยู่รอด โดยปราศจากเรา จากความไม่รู้ เราเลยไปยึดทุกอย่างมาเป็นเราเป็นของเรา จึงสุข ทุกข์ขึ้นมา

อยู่ไปอยู่มา เรามาจากไหนกันนี่ ถึงได้ไปเอา ตา (กล) หู (กล) จมูก (กล) ลิ้น (กล) กาย (กล) มายึดถือว่าเป็นของเรา ด้วยความที่รูปนามนี้ พัฒนาตัวเองมาอย่างยาวนาน โดยนามธรรมที่ค่อยสร้างรู้สึกขึ้นมาทีละเล็กละน้อย จนวิจิตรพิสดารในวันนี้ ด้วยความเป็นธรรมชาติที่ไม่มีเจ้าของ แต่จากความไม่รู้ จึงเกิดพลังงานโง่ไปถือครองทุกอย่างที่มีอยู่ เป็นเรา เป็นของเราไปหมดเลย วันนี้จะกลับไปเห็นแบบวันแรกสุดเลยนั้น ทำไม่ได้เสียแล้ว

เชื่อไหมว่า ทุกวันนี้อวัยวะทุกๆ อย่างของเราก็คือ Transformers ที่โดนเรายึดเป็นของเราโดยเขาไม่รู้เรื่องด้วย สภาพไม่รู้เรื่องด้วยเขาเรียกว่า สุญโญ (ว่างจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน) หุ่นเนื้อนี้โดนคนโง่ไปยึดถือว่าเป็นกายกู หุ่นก็ไม่ได้ว่าเราโง่ หุ่นก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาไปด้วย วันหนึ่งจะเห็นถูกว่ากูโง่ไปยึด หุ่นเองก็ไม่สนใจเพราะว่างจากตัวตนของมันอยู่แล้ว จะบำรุงบำเรอทาสีทาครีมให้พิสดารแค่ไหน หุ่นก็มีอายุของมัน ตามที่เหล็กจะอยู่ได้ หรือแบตเตอรี่ไฟยังไม่หมด

แล้วตกลงนี่ หุ่นไม่รู้เรื่องด้วย แล้วใครยึด มีธรรมชาติเดิมอย่างหนึ่งที่สมมุติชื่อว่า จิต จิตเป็นสภาพรู้ซื่อๆ จิตดันโง่ไปยึดถือตัวมันขึ้นมา เมื่อมันยึดถือตัวมัน จึงเกิดผลพวงไปยึดถือทั้งหุ่นทั้งความรู้สึกต่างๆ เป็นของเราไปหมด (ขันธ์ 5) นี่คือที่มาของเรื่องวุ่นไม่รู้จบ แต่งหนังไปได้ไม่มีภาคจบ เพราะ Transformers นี้จะ Transform ตัวเองไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่า หมู หมา กา ไก่ คน เทวดา สัตว์นรก อสุรกาย พรหม นิยายเรื่องนี้ไม่มีภาคจบ ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้แล้วชี้บอก จะไปยึดหุ่นมาเป็นเราทำไม และที่สำคัญไอ้เจ้าความรู้สึกทั้งหลายนั่นก็ด้วย ปล่อยเขาไปเถอะ จะได้กลับบ้านที่สงบเย็นตามพระบรมศาสดาไปกัน


เขียนเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2554


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น