อย่าเป็นเปรตเฝ้าเหตุเฝ้าผล (คำหลวงปู่หล้า)

เขาทำฉัน เขาทำฉันก่อน เขาไปกุ๊กกิ๊กกับคนอื่น ฉันไม่ยอม ฉันไม่ผิด เขาผิด ใครผิดก็ว่าไป จะทำอะไรก็ทำไป

คนไม่ผิดไม่ควรทุกข์สิ ทำไมคนไม่ผิดทุกข์ล่ะ ส่วนคนผิดเขาทุกข์แน่ไม่ต้องห่วง ตอนนี้มันทุกข์แล้ว แต่บางคนมันยังไม่รู้ จนทุกข์แสดงผลอย่างรุนแรงนั่นแหละ เหมือนแผ่นดินไหว มันไหวอยู่แล้วตอนนี้แต่ไม่รู้ ไม่รู้ไม่ได้แปลว่าไม่มี ทุกข์มีอยู่ ไม่รู้ไม่ได้แปลว่าไม่มี ทุกข์สั่งสมไว้ก็ไปทุคติภูมิ คนรู้แล้วต้องรีบชำระ ไม่อย่างนั้นคนที่ว่าตัวเองไม่ผิด จะได้ไปนั่งมองตาปริบๆ กันอีกรอบในอบายกับคนที่เราว่าเขาผิดนะ คนผิดศีลทุกข์อยู่แล้ว ไม่มีไม่ทุกข์ เพราะทำผิดทางกาย วาจา ส่วนใจทำทุจริตกันตลอดก็ทุกข์ใจกันตลอด ไม่มีหยุด ละอารมณ์อกุศล แล้วมาอยู่กับลมหายใจไว้

อย่ามัวนั่งเฝ้าเหตุเฝ้าผลอย่างเปรต ละไวๆ พวกอารมณ์อกุศล ส่วนจะจัดการอย่างไรในส่วนเนื้อเรื่อง ก็ทำตามที่เห็นสมควร ความสมควรนั้น แต่ละคนมีได้ต่างๆ กันตามความคิดตามนิสัยแต่ละคน อย่างถูกโกง บางคนให้อภัย บางคนฟ้องเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างก็ว่ากันไป ขออย่าไปทุกข์กับสิ่งนั้นก็แล้วกัน ไม่ว่าจะตัดสินใจแบบไหน จะฟ้องหรือจะไม่ฟ้อง ไม่ได้เกี่ยวกับมรรค มรรคมิได้ไปจัดการกับการตัดสินใจแบบนี้ อันนี้ขึ้นกับอุปนิสัย ลักษณะของคนๆ นั้น มรรคจัดการที่ทุกข์ เมื่อมีสติปัญญาแล้ว จะดำเนินอย่างไรก็ว่ากันไป ไม่ทำตามอารมณ์ แต่ทำตามสติปัญญา


พระอรหันต์ก็ไม่ได้คิดเหมือนกันหรือทำเหมือนกัน พระอรหันต์มีอย่างเดียวที่เหมือนกันคือ ไม่ทุกข์อีกต่อไป ทำอะไรก็เป็นกุศล ไม่ได้ต้องเหมือนกันหรือดีแบบที่คนคิดว่าดี ท่านเป็นอย่างที่ท่านเป็น แต่ท่านไม่ได้เป็นอะไร อะไรมันก็เป็นของมัน มันสั่งสมมาอย่างนั้น มันก็เป็นไป ไม่มีใครไปยึดเป็นเราเป็นใคร แต่รับประกันได้ว่าท่านสร้างกุศลช่วยโลก ช่วยให้คนพ้นทุกข์ จนถึงที่สุดทุกองค์ ที่เหลือก็แล้วแต่ใครๆ


เขียนเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2554


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น