ลองนึกภาพคนที่เห็นเหตุการณ์ตามจริง เช่น เรื่องน้ำท่วม พูดกันตรงๆ ไม่มีปาฏิหาริย์เลย น้ำไหลผ่านพื้นที่ต่างๆ เพื่อลงต่ำคือลงทะเลในที่สุด แต่การไหลผ่านนั้นสร้างความทุกข์ ความยากลำบากในการเดินทางของผู้คน จึงเกิดเป็นทุกข์ตามมา
ความทุกข์กายต้องเกิดแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม จากสิ่งที่เห็นกันอยู่ แล้วเลี่ยงก็ไม่ได้ ที่ทำกันอยู่ก็แค่ประคองสถานการณ์ ไม่ให้ลำบากเกินไปเท่านั้น แต่ความทุกข์ใจนี่สิที่จะต่างกัน ผู้ที่เห็นความจริง ยอมรับความจริง ไม่คร่ำครวญให้ทุกข์เพิ่ม เพราะนั่นไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นแต่อย่างไร พลิกวิกฤตินี้มาเห็นความจริง เพื่อปล่อยความยึดมั่นว่าสรรพสิ่งเป็นอัตตาอยู่ภายใต้ความควบคุมของเรา
ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีอะไรที่เราควบคุมได้เลยแม้แต่อย่างเดียว แต่เผอิญว่าใจเราไปตรงกับสิ่งนั้นเอง เปรียบเสมือนนักแสดงผาดโผนผู้เดินบนเส้นลวดที่ขึงไว้ระหว่างตึกสูงสองตึก ระหว่างเขาเดินอยู่บนลวดที่แกว่งไปแกว่งมาอย่างน่าหวาดเสียว โดยมีไม้ยาวเพียงอย่างเดียวที่ช่วยในการทรงตัว แต่สิ่งที่ไม่อยู่ในการเตรียมตัวในการแสดงวันนั้นคือลมกรรโชกเข้ามาพร้อมเมฆฝนดำทะมึน ยิ่งทำให้ลวดที่ยาวแกว่งตัวไปมาตามแรงลม นั่นสร้างความน่ากลัวกับภาพที่เห็นมากขึ้นไปอีก ทุกวินาทีผ่านไปอย่างยากเย็น นักแสดงคนนั้นเดินอยู่บนความเป็นและความตาย คนดูล้วนลุ้นระทึก พอลมพัดเข้ามาแรงๆ เขาก็ซวนเซทำท่าจะตก คนดูกรีดร้องกันอย่างตื่นตระหนกและอ้อนวอนภาวนาขออย่าให้ตกเลย ยิ่งใกล้ปลายทางยิ่งใจหายใจคว่ำ ใจทุกคนยิ่งลุ้นระทึก ยิ่งใกล้กลับเหมือนยิ่งไกล จนเขาเดินไปถึงปลายทางได้ คนดูถอนหายใจอย่างโล่งอก โล่งอก มันเกี่ยวกันตรงไหน ระหว่างนักแสดงกับคนดู? แล้วคนอ่านไปเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย ทำไมหวาดเสียวตามไปด้วย เพราะเห็นภาพการปรุงแต่งในใจเราไหม เราเกิดเป็นอารมณ์ ก็เพราะเราไปยึดถือภาพนั้น จึงเกิดเป็นอารมณ์ตามไปด้วย
ทุกข์น่ะเป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่ไม่ต้องมีทุกข์ก็ได้ เพราะภาพที่เราเห็นนั้นถูกยึดเป็นของเราโดยเราไม่รู้ตัว รู้ลมแล้วดีขึ้นได้บ้าง บางทีก็ไม่ได้ เพราะปัญญามันยังไม่เกิด ยังยึดเหนียวแน่น ใครพูดอย่างไรก็ไม่ฟัง ต้องเห็นเอง เข้าใจเอง แจ้งเอง แล้วจะวาง วางเมื่อเห็นว่า…ทุกข์ฟรี
ทำอย่างดีที่สุดในการดำเนินชีวิตโดยไม่ทุกข์ก็ได้ นี่ล่ะการปฏิบัติธรรม ต้องอดทน มันสั่งสมมานาน ถ้าเราได้เด็กเหลือขอนิสัยไม่ดี สร้างความเอือมระอาให้กับคนเลี้ยงเป็นอย่างมาก คนเลี้ยงต้องอดทนค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ เปลี่ยนนิสัยให้เป็นคนดีซึ่งต้องใช้เวลา หากถอดใจเสียกลางคัน เด็กคนนั้นก็ต้องเผชิญชะตากรรมที่เขาทำต่อไป ดังนั้นต้องอดทนเพื่อให้เด็กคนนั้นรอดพ้น
หากท่านเป็นคนดูแลเด็กคนนั้น ท่านจะทำอย่างไร? หากท่านรู้ความจริงว่า คนดูแลกับเด็กเหลือขอคนนั้น เป็นคนเดียวกัน
เขียนเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2554 ช่วงมหาอุทกภัยกรุงเทพฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น