ประมาท

สังเกตไหม ว่าทุกเช้าที่เปิดทีวีดูข่าวน้ำท่วม จะได้ยินประโยคนี้ทุกที่ที่น้ำไปถึง “น้ำมาเร็วมากเก็บของไม่ทัน” มันเริ่มท่วมมาเป็นเดือนแล้วไม่ใช่หรือ? ถ้าบ้านเขาไม่มีที่ที่ให้ขนของหลบไปจริงๆ ก็พอเข้าใจได้ แต่คนที่บ้านมีชั้นสองนี่ ฟังไม่ขึ้นเลยจริงๆ

มันสื่อไปถึงทุกอย่างของการใช้ชีวิตรู้ไหม? เคยซื้อกล้วยน้ำว้าไหม? กล้วยหวีหนึ่งส่วนใหญ่กินกันไม่ทันหรอก แต่จะไม่ให้ใคร จนกว่ามันงอมจนแทบกินไม่ได้แล้ว หรือสุดท้ายโยนทิ้งถังขยะ (วันที่ซื้อบอกแม่ค้าหั่นครึ่งหวีเลย แล้วยื่นให้คนกวาดถนน วินมอเตอร์ไซค์ ยามหน้าหมู่บ้าน ตำรวจจราจรไปเลย) เสื้อผ้าในตู้ที่มีเยอะมาก วันไหนที่ใจกรุณาขึ้นมา หยิบตัวที่ไม่เคยใส่มาเลยทั้งปีว่าจะบริจาค แต่สุดท้ายก็ยังหวงใส่กลับเข้าไปในตู้อีก ได้บริจาคจริงๆ ไม่กี่ตัว มันตัดอะไรไม่ขาดสักอย่าง จะยกจะขนของหนีก็กลัวน้ำมันจะไม่ท่วมเดี๋ยวยกเก้อ เอาแค่นี้ก่อนเดี๋ยวน้ำมาจริงๆ แล้วค่อยยกอีกที ฉันว่าคงไม่ท่วมขนาดนั้นหรอก ถ้ามันไม่ท่วมก็รอดไป แต่ทำไมไม่คิดว่าถ้ามันท่วมล่ะ..ประมาทจริงๆ

วันที่น้ำท่วมบอกว่าไม่ได้เตรียมตัวทั้งๆ ที่มันท่วมเห็นๆ ใจมันไม่เคยคิดว่าจะเป็นเรา เพราะมันเห็นทุกอย่างเป็นนิจจัง ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันที่ดีๆ ของเราหรอก ขนาดน้ำท่วมเห็นๆ ยังคิดไม่ออก

คนทุกคนต้องตายใช่ไหม? แล้ววันที่ความตายมาถึง คนจะพูดว่าอย่างไรรู้ไหม?

ฉันยังไม่พร้อมเลย…(ใครถาม?) น้ำท่วมรู้ล่วงหน้าก่อนสักอาทิตย์ แต่ “ตาย” นี่รู้ล่วงหน้ามาตั้งแต่เกิดเลยนะ


เขียนเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2554 ช่วงมหาอุทกภัยกรุงเทพฯ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น