ธรรมะจากหลวงปู่แบน

เช้าวันแรก ที่หลวงปู่แบนมาพักอยู่ที่สวนยินดีธรรม เมื่อท่านลงจากที่พัก ผมกับคุณแม่ยินดีได้เข้าไปกราบนมัสการท่าน ท่านจึงนั่งลง แล้วพูดขึ้นว่า “หลวงปู่หลับสบายเลย ตื่นขึ้นมารู้สึกว่ายอมแพ้ใจคนสร้างสถานที่นี้จริงๆ เหนื่อยนะนี่ สร้างซะสวยงามแบบนี้ ใครมาปฏิบัติแล้วทำไม่ดี ก็เหนื่อยนะ หลวงปู่เห็นแล้วเหนื่อย”


อ.ประเสริฐ: แต่หากมีปัญญา ทำแล้วก็จบไปจบไป ก็ไม่เหนื่อยครับหลวงปู่

หลวงปู่แบน: ถึงมีปัญญาก็เหนื่อย ที่สำคัญใครล่ะที่มีปัญญาหรือมีปัญญาจริงๆ อื้อ แต่ถ้ามีปัญญาก็ไม่เหนื่อยนะ



หมายเหตุ

สาธุ จริงอย่างยิ่งครับหลวงปู่ ถือแก้วน้ำไว้ใบหนึ่งก็เหนื่อย ถึงมีปัญญาก็เหนื่อย (กาย) แต่ถ้ามีปัญญาจริง จะไม่เหนื่อย (ใจ) เพราะจะได้เอาน้ำที่ถือไว้แจกจ่ายคนกระหายน้ำ ตราบใดที่ยังไม่พ้นจากความเกิด ความแก่ ความตาย เมื่อนั้นก็ยังทุกข์

ขันธ์ทั้ง 5 เป็นตัวทุกข์ หมดอุปาทานในขันธ์ ธรรมชาติของขันธ์ก็คงทุกข์อยู่นั่นเอง ธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้น งงไหม?

ในการสนทนากับหลวงปู่แบน มีคำกล่าวที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อนักปฏิบัติอย่างมากอีกบทหนึ่งก็คือ “…ไม่ว่าเราจะทำงานใดๆ ให้เราบอกตนเองว่า เรากำลังปฏิบัติธรรม เวลาเราไปเยี่ยมญาติ เยี่ยมเพื่อนหรือไปที่ไหนๆ ให้เราบอกตนเองว่า เราไปปลีกวิเวกรู้ไหม เวลาเราพูดแบบนี้ สิ่งที่ไปกระทบใจ มันจะเกิดเป็นความรู้สึกขึ้นมาแบบที่ต่างออกไป มันรู้สึกว่า ไม่ว่าจะทำอะไร จะไปไหน จิตใจของเราจะสงบและเป็นธรรม…”

สาธุ นักปฏิบัติทั้งหลายนำไปใช้นะ หลวงปู่แบนให้มา จึงนำมาฝากและแจกจ่าย

หลวงปู่เมตตามาก ร่าเริงเป็นที่สุด มีผู้คนในสุราษฎร์ฯ เข้ามาทำบุญใส่บาตรกับท่านที่สวนยินดีธรรมมืดฟ้ามัวดินเลย ถือเป็นบุญของชาวสวนยินดีธรรมจริงๆ

หลวงปู่แบนเดินทางมาพร้อมพระติดตาม 6 รูป และขบวนญาติโยมอีก 14 คัน ลากเทรลเลอร์ของแจกมาสุราษฎร์ฯ 2 เทรลเลอร์ เป็นข้าวสาร 10 ก.ก. 4,000 ถุง (40 ตัน มูลค่าเป็นล้าน) ที่นอน มุ้งอีก 4,000 ชุด หลังจากแจกที่สุราษฎร์ฯ เสร็จ ไปแจกนครศรีธรรมราชต่อ ด้วยของจำนวนเท่ากันคืออีก 2 เทรลเลอร์ หลวงปู่บอกว่า หลวงปู่มีอาชีพบิณฑบาต ก็ทำได้แค่นี้ล่ะ หลวงปู่ยังเมตตาช่วยผู้ประสบภัย ในการให้วัสดุเพื่อสร้างบ้านใหม่อีก 10 หลัง สวนยินดีธรรมจึงร่วมทำบุญถวายหลวงปู่ไปด้วย 50,000 บาท ซึ่งก็เป็นเงินบริจาคของทุกคน เอ้า สาธุ


เขียนเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2554


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น