เราฝึกปล่อยวาง…ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย

น่าเสียใจที่นักปฏิบัติมักจะถูกมองว่าเห็นแก่ตัว เอาแต่ตัวเองรอด ไม่สนใจผู้อื่นหรือสังคม ซึ่งก็ต้องยอมรับในข้อนี้เหมือนกัน พวกเราคงต้องตระหนักในเรื่องนี้ให้มาก ในการทำความดีให้กับผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง

ข้อคิดอย่างหนึ่งที่ได้จากคุณหญิงหมอพรทิพย์ในวันเสวนาร่วมกันคือ ท่านบอกตั้งแต่เป็นเด็กมา พ่อจะสอนให้ถือศีล 5 อย่างเคร่งครัด รวมถึงการไม่ปล่อยปละละเลย เช่น เห็นแก้วแตกที่พื้นต้องเก็บ ไม่ว่าใครทำ ถ้าไม่เก็บบาป เพราะเราคือคนที่เห็นแล้ว ความรับผิดชอบอยู่ที่เรา ที่จะทำให้คนอื่นไม่บาดเจ็บต่อไป ถ้าไม่เก็บ ถือว่าเราทำแตก ดังนั้นวันนี้คุณหญิงหมอจึงเห็นเรื่องไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้นเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ ไม่กลัวไม่ว่าต้องเผชิญกับอะไร ถ้าเราไม่ทำ ใครจะทำ

ดังนั้นวันนี้เราต้องฝึกนะ เห็นไฟเปิด แอร์เปิด ขยะอยู่ตรงหน้า คนอื่นรถเสีย (ผู้หญิงไม่ต้องก็ได้ นอกจากเห็นผู้หญิงรถเสียต้องรีบช่วยนะ เดี๋ยวมีมิจฉาชีพจะฉวยโอกาส) ช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก อย่าเสียดายเลยเงินทองน่ะ เกิดมาเพื่อมาเดินทางกลับ สร้างบารมีให้มาก อย่าเอาแต่ทำบุญกับวัดกับพระอย่างเดียว วันไหนอยากกินอะไรแพงๆ ก็เปลี่ยนเป็นกินแค่พออิ่ม เดี๋ยวก็ขี้ออกไปหมดอยู่ดี เลือกสิ่งที่เป็นประโยชน์ ราคาไม่แพง จะได้เอาเงินส่วนที่เหลือ มาซื้อของช่วยคนอดอยาก หรือให้กำลังใจผู้คน เวลาทานข้าวเสร็จ ก่อนลุก สั่งอีกห่อสองห่อติดมือไปด้วย เผื่อเจอใครจะได้ให้เขา เช่น ผ่าน รปภ. ผ่านคนกวาดถนน ซื้อน้ำติดรถไว้เยอะๆ เปิดกระจกแจกไปเรื่อย ตำรวจบ้าง เด็กนักเรียนบ้าง

ทำไปเถอะทำให้คนเขาว่าบ้าไปเลย จะได้ออกช่องทรู…ปลูกคนดี


เขียนเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2553


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น