สรรพสิ่งผ่านมาผ่านไป ตัวเราทำหน้าที่ของเราอย่างมีสติมีปัญญา เวลาสำหรับเราจะไม่มี เวลาจะกัดกินเราไม่ได้ ทุกข์ก็จะไม่มี ยกตัวอย่างเช่น ในหลักสูตรยุวเนกขัมม์ ในวันที่ 2 ของการปฏิบัติ เด็กพูดขึ้นมาว่า เบื่อ อยากกลับบ้าน การบรรยายจึงมุ่งไปให้เห็นความจริง สุดท้าย เด็กเริ่มเห็นว่าวันสุดท้ายมาถึงเอง ไม่ว่าอยากหรือไม่อยากให้ถึง วันสุดท้ายก็มาถึงแน่ ไม่มีไม่แน่ วันสุดท้ายเคลื่อนมา โดยไม่ขึ้นกับอยากหรือไม่อยากของใคร จะชอบหรือไม่ชอบ ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเวลาเลย
แม้จะอยากให้ถึง เวลานั้นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย มิหนำซ้ำ ใจกลับยิ่งทุกข์มากขึ้น เวลาจึงเหมือนมาทำร้ายเรา แต่จริงๆ ก็ไม่ใช่ ถึงจะไม่อยากให้เวลานั้นหมดไป เพราะเกิดความสุขความพอใจ ไม่อยากให้เวลาดีอย่างนั้นผ่านไป เวลาก็เหมือนทำให้เรามีความทุกข์อีก แล้วที่จริง เวลาทำให้เราทุกข์หรือ? หรือเราไปสร้างเวลามาฆ่าเรา แล้วเรากลับบอกว่า เราฆ่าเวลา
เวลาเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราเลย เขาว่างจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน เขาเคยมีอยู่หรือ? เราให้ค่า เราทุกข์เอง รถติดไฟแดง กำลังจะไปไม่ทันนัดที่สำคัญมาก หงุดหงิดไหม หงุดหงิดทำไม ตัวเลขนับถอยหลังของไฟแดงที่จะเปลี่ยนเป็นไฟเขียว กลายเป็นระเบิดเวลาสำหรับคนนั้นไป จิตใจเร่าร้อนเพราะอะไร จริงๆ แล้วมันไม่เกี่ยวกับทุกข์เลย ผลที่อาจไปทันหรือไปไม่ทันนั้น เราทำได้แค่ทำดีที่สุด แต่เราถลำเลยไปถึงทุกข์ได้อย่างไร?
เราไหลลงไปสู่เวลา จึงได้เกิดเป็นกาลเวลา เมื่อมีกาลเวลา นั่นจึงเกิดเป็นกรรม ภพชาติก็จึงเกิดขึ้น จิตขยับเคลื่อนไหวเป็นเหตุเกิดแห่งทุกข์ เกิดเป็นเราขึ้นในวินาทีนั้นทันที จึงมีกรรม มีผลแห่งกรรมที่ต้องรับคือทุกข์
กลับมารู้ลมไว้ ถ้าจะยังมีเวลา ให้มีเวลาปัจจุบันไว้ก่อน ถ้ายังยึดว่าเวลามี ให้ใช้ปัจจุบันเป็นสรณะ แล้วจะพบความสุขสงบเป็นผล จนวันหนึ่งพบความจริง ปัจจุบันก็ไม่รู้อยู่ไหน เวลาในนาฬิกาก็เดินไป แต่ไม่มีเวลาในใจของผู้ไม่ปรุงแต่งให้ค่าเวลาอีก มันเลยสุขขึ้นไปอีก เพราะไม่ยึดถือสุขนั่นเอง
นัดใครกี่โมงก็ยังไปตรงเวลา นาฬิกาก็ดู รู้ด้วยว่ากี่โมง แต่ไม่มีกาลเวลา อยู่กับปัจจุบันหรือ? จะอยู่กับอะไร ถ้าไม่มีทั้งใครและอะไร?
เขียนเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2554
แม้จะอยากให้ถึง เวลานั้นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย มิหนำซ้ำ ใจกลับยิ่งทุกข์มากขึ้น เวลาจึงเหมือนมาทำร้ายเรา แต่จริงๆ ก็ไม่ใช่ ถึงจะไม่อยากให้เวลานั้นหมดไป เพราะเกิดความสุขความพอใจ ไม่อยากให้เวลาดีอย่างนั้นผ่านไป เวลาก็เหมือนทำให้เรามีความทุกข์อีก แล้วที่จริง เวลาทำให้เราทุกข์หรือ? หรือเราไปสร้างเวลามาฆ่าเรา แล้วเรากลับบอกว่า เราฆ่าเวลา
เวลาเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราเลย เขาว่างจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน เขาเคยมีอยู่หรือ? เราให้ค่า เราทุกข์เอง รถติดไฟแดง กำลังจะไปไม่ทันนัดที่สำคัญมาก หงุดหงิดไหม หงุดหงิดทำไม ตัวเลขนับถอยหลังของไฟแดงที่จะเปลี่ยนเป็นไฟเขียว กลายเป็นระเบิดเวลาสำหรับคนนั้นไป จิตใจเร่าร้อนเพราะอะไร จริงๆ แล้วมันไม่เกี่ยวกับทุกข์เลย ผลที่อาจไปทันหรือไปไม่ทันนั้น เราทำได้แค่ทำดีที่สุด แต่เราถลำเลยไปถึงทุกข์ได้อย่างไร?
เราไหลลงไปสู่เวลา จึงได้เกิดเป็นกาลเวลา เมื่อมีกาลเวลา นั่นจึงเกิดเป็นกรรม ภพชาติก็จึงเกิดขึ้น จิตขยับเคลื่อนไหวเป็นเหตุเกิดแห่งทุกข์ เกิดเป็นเราขึ้นในวินาทีนั้นทันที จึงมีกรรม มีผลแห่งกรรมที่ต้องรับคือทุกข์
กลับมารู้ลมไว้ ถ้าจะยังมีเวลา ให้มีเวลาปัจจุบันไว้ก่อน ถ้ายังยึดว่าเวลามี ให้ใช้ปัจจุบันเป็นสรณะ แล้วจะพบความสุขสงบเป็นผล จนวันหนึ่งพบความจริง ปัจจุบันก็ไม่รู้อยู่ไหน เวลาในนาฬิกาก็เดินไป แต่ไม่มีเวลาในใจของผู้ไม่ปรุงแต่งให้ค่าเวลาอีก มันเลยสุขขึ้นไปอีก เพราะไม่ยึดถือสุขนั่นเอง
นัดใครกี่โมงก็ยังไปตรงเวลา นาฬิกาก็ดู รู้ด้วยว่ากี่โมง แต่ไม่มีกาลเวลา อยู่กับปัจจุบันหรือ? จะอยู่กับอะไร ถ้าไม่มีทั้งใครและอะไร?
เขียนเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2554
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น